6.การวิเคราะห์พื้นผิว Surface analysis




การวิเคราะห์พื้นผิว  Surface analysis


VDO




Capture

ก่อนอื่นทำการสร้าง Fonder และตั้งชื่อ 
จากนั้นทำการเปิดข้อมูลเส้นชั้นความสูง  idw2 ใน Fonder IDW_Jane ขึ้นมา



ทำการ Surface
การสร้างเส้น Contour
ไปเปิดเครื่องมือที่ชื่อว่า 3D Analyst >> Customize >> Toolbar >> 3D Analyst





จะปรากฏแถบเครื่องมือ 3D Analyst ขึ้นมา >> Create Contours




แล้วไปคลิกยังพื้นที่ที่ต้องการจะมีเส้น Contour ในกรอบขึ้นมา





หากต้องการจะลบต้องไปที่เครื่องหมายเมาส์ Select Elements >> ลากคลุมเส้น Contour




จะแสดงกรอบขึ้นมา แล้วกด Delete เส้น Contour ก็จะหายไป





ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Contour





จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Contour ขึ้นมา >>  Input raster >>  idw2





Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Contour) >> Save




ช่อง Contour interval >> ใส่ค่า 50  >> OK





จะปรากฏเส้น Contour ที่มีระยะห่าง 50 เมตร ดังภาพ





คลิกขวาที่ชั้นข้อมูล Contour >> Properties





จะปรากฏหน้าต่าง Layer Properties ขึ้นมา >>  Labels >> Label Field >> CONTOUR





ช่อง Text Symbol ทำการเปลี่ยน Font ปรับขนาด และสีตัวอักษรได้ตามต้องการจากนั้น  OK





จากนั้นมาที่ Symbolugy >> Categories >> Unique Values >> Value Field >> CONTOUR >> Color field เลือกสีตามต้องการ >> Add All Values >> OK







เสร็จแล้วจะปรากฏณ์ดังภาพ






คลิกขวาที่ชั้นข้อมูล Contour > Label Features เพื่อให้แสดงเลขชั้นความสูง






เสร็จแล้วจะปรากฏณ์เลขขึ้นมาดังภาพ






หากต้องการปิดคลิกขวาที่ชั้นข้อมูล Contour > Label Features เลขก็จะหายไป





แนวการมองเห็น

ไปที่เครื่องมือ Create Line of Sight





จะปรากฏหน้าต่าง Line Of Sight ขึ้นมา ทำการลากเส้นกดจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย
  • เส้นสีแดง (Obstructed area) บริเวณที่ถูกกีดขวางจากจุดสังเกต
  • เส้นสีเขียว (Visible area) บริเวณที่สามารถมองเห็นจากสุดสังเกต 
  •  จุดสีดำ สีน้ำเงิน และสีแดงแทน 
  • จุดสีดำ (Observer location) ตำแหน่งจุดสังเกต 
  • จุดสีน้ำเงิน (Obstruction point) ตำแหน่งที่ถูกกีดขวางจากตำแหน่งจุดสังเกตไปยังตำแหน่งเป้าหมาย 
  • จุดสีแดง (Target location) ตำแหน่งเป้าหมาย





ทิศทางการไหล 

ทำการ Zoom เข้าไปในภาพ





ไปที่เครื่องมือที่ชื่อว่า Create Steepest Path





นำมาคลิกในภาพ แล้วจะปรากฏเส้นแสดงทิศทางการไหลของวัตถุ





การสร้างภาพตัดขวาง

ไปที่เครื่องมือที่ชื่อว่า Interpolate Line





ทำการลากเส้นลงบนข้อมูลภาพขึ้นมาหนึ่งเส้น





ไปที่เครื่องมือ Create Profile Graph จากนั้นจะปรากฏณ์หน้าต่าง Profile Graph Title ขึ้นมาจะแสดงกราฟพื้นผิวบริเวณนั้นๆ





ทำการสร้างเส้นเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเส้น





คลิกขวาที่เส้น ไปที่ Properties





จะปรากฏณ์หน้าต่าง Properties ขึ้นมา >> Symbolทำการเปลี่ยนสีเส้น เพื่อให้ง่ายต่อการเปรียบเทียบ >> OK






เส้นก็จะเปลี่ยนสีตามที่เราเลือก จากนั้นทำการลากคลุมเส้นทั้งสอง






ให้เกิดเป็นกรอบคลุมดังภาพ





ไปที่เครื่องมือ Create Profile Graph จากนั้นจะปรากฏณ์หน้าต่าง Profile Graph Title ขึ้นมาจะแสดงกราฟพื้นผิวบริเวณนั้นๆของทั้งสองเส้นขึ้นมาเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองเส้น





การวิเคราะห์ความลาดชัน

ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Slope





จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Slope ขึ้นมา >> Input raster >> idw2




Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Slop) >> Save




ช่อง Output measurement (optional) >> DEGREE >> OK





จะปรากฏดังภาพ สีเขียวเข้มแสดงว่ามีความสูงมาก ความลาดชันสามารถคำนวณและวัดจะคิดเป็น องศา (Degree)





ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Slope
จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Slope ขึ้นมา >> Input raster >> idw2
Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Slop_per) >> Save
ช่อง Output measurement (optional) >> PERCENT_RISE >> OK




จะปรากฏดังภาพ ความลาดชันสามารถคำนวณและวัด จะคิดเป็น เปอร์เซ็นต์ (Percent rise)





การวิเคราะห์ค่าหักเหของความลาดชัน

ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Aspect






จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Aspect ขึ้นมา >> Input raster >> idw2




Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Aspect ) >> Save >> OK





จากนั้นจะปรากฏดังภาพ สีเข้มมากจะมีค่าความสูงมาก


  • ทิศทางการหันเหของความลาดชัน (Aspect)                                                                         Aspect เป็นการกำหนดความลาดชันที่จะรับแสง  Aspect จะวัดตามเข็มนาฬิกาจาก 0-360 องศา ค่าของทุกเซลล์จะบ่งบอกทิศทางการหันเหของ ความลาดชัน โดยพื้นที่ที่เป็น Flat slope จะไม่มีทิศทาง และมีค่าเป็น -1 เสมอ






ทำการ Zoomgเข้าไปที่จุดสี จากนั้นไปเลือกเครื่องมือ Identify





นำมาคลิกบริเวณจุดสีจะปรากฏณ์หน้าต่าง Identify จะบอกถึงการหันของสีว่าหันตกกระทบกี่องศา





การตกกระทบของแสง

ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Hillshade





จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Hillshade ขึ้นมา >> Input raster เลือก idw2




Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Hill) >> Save





ช่อง Azimuth >> ใส่ค่า 315 >> ช่อง Altitude >> ใส่ค่า 45 >> OK





เสร็จแล้วจะปรากฏเป็นลักษณะพื้นผิวที่แสงสว่างตกกระทบบนพื้นผิวของวัตถุ ค่าของแสงที่ตกกระทบจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-255 ซึ่งแทนด้วยระดับสีเทาจากสีดำจนถึงสีขาวตามลำดับ






คลิกที่เครื่องมือ Identify





จากนั้นไปคลิกที่จุดที่เราต้องรู้ค่าแสงตกกระทบ จะปรากฏณ์หน้าต่าง  Identify ขึ้นมา แสดงค่าตกกระทบดังภาพ






เปิดชั้นข้อมูล AMPHOE ใน Fonder KANCHANABURI  ขึ้นมา





คลิกขวาที่ชั้นข้อมูล AMPHOE >> Properties






จากนั้นมาที่ Symbolugy >> Categories >> Unique Values >> Value Field >> AREA >> Color field เลือกสีตามต้องการ >> Add All Values >> OK





จากนั้นจะปรากฏสีขึ้นมาเป็นอำเภอละ 1 สี จากนั้น คลิกให้ขึ้นเครื่องหมายถูกหน้าคำว่า Hillshade ดังภาพ คลิกขวาที่ AMPHOE > Properties





จะปรากฏหน้าต่าง Layer Properties >>  Display >> Transparent >> ใส่ค่า 70 %  >> OK





เสร็จแล้วจะเห็นค่าความลึกของพื้นที่มากขึ้น




สร้าง Shapefile

คลิกขวาที่ Fonder ที่ต้องการจะสร้าง Shapefile >>  NEW >> Shapefile





จะปรากฏณ์หน้าต่าง Create New Shapefile ขึ้นมา Name >> Point  >> Feature Type >> Point >> Edit…





 เลือก Select จะปรากฏหน้าต่าง Browse for Coodinecte System >>  Projected Coordinate Systems >> UTM >>WGS 1984 >> Northern Hemisphere >>  WGS 1984 UTM Zone 47N.prj >>  Add >> OK




>>  OK




ไปที่ Editor >> Start Editing






จะปรากฏณืหน้าต่าง Start Editing ขึ้นมา >>  Point >> OK





กด Continue





จะปรากฏณ์หน้าต่าง Create Features ขึ้นมา ไปที่ Construction Tools >> Point จากนั้นไปกำหนดจุดในภาพ





ทำการเปลี่ยนสัญลักษณ์ให้จุดที่สร้าง ดับเบิ้ลคลิดที่ ICON จุดใน Table Of Contents ดังภาพ เลือก ICON ตามต้องการจากนั้นกด OK





จากนั้นจะปรากฏ ICON ที่เราเลือกจุดไว้ จากนั้นไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >>Raster Surface >>Viewshade





จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง  Viewshade  ขึ้นมา >> Input raster >> idw2 >> Input point or polyline observer features >> Point






Output raster คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (View) >> Save >> OK




เสร็จแล้วจะปรากฏดังภาพ สีเขียวคือพื้นที่ที่เราสามารถมาเห็นได้ สีชมพูคือบริเวณที่มีสิ่งกีดขวางการมองเห็นของเรา





การคำนวณข้อมูลประมาณปริมาตรในการขุดและถมที่

ทำการเปิดข้อมูล DEM_AFTER ,DEM_BEFORE ขึ้นมา ไปที่ Prachinburi >> Cut_Fill >> เปิดไฟล์




ไปที่เครื่องมือ ArcToolbox >> 3D Analyst Tools >> Raster Surface >> Cut Fill




จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Cut Fill ขึ้นมา >>  Input before raster surface >> DEM_BEFORE
>> Input after raster surface >> DEM_AFTER





Output after raster surface คลิกที่รูป Fonderสีเหลือขวามือ >> ทำการเลือก Fonder ที่ต้องการจะจัดเก็บข้อมูล ในที่นี้คือ Contour_J >> ตั้งชื่อ (Cutfill) >> Save >>OK




เสร็จแล้วจะปรากฏดังภาพ

  • สีแดง คือ มีการพัดของตะกอนมาทับถม
  • สีน้ำเงิน คือ บริเวณที่มีการชะล้าง
  • สีเทา คือ บริเวณที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง







คลิกขวาที่ CutFill >> Open Attribute Table





คลิกที่ Volume ในขึ้นเป็นแถบสีฟ้า >> คลิกขวา >> Sort Descending





เป็นการเรียงข้อมูลจากมาก >> น้อย ในช่องสีฟ้า คือปริมาณของการทับถมที่มากที่สุดถ้าค่าเพิ่มขึ้น ปริมาณจะสูญเสียไป





ช่อง Count บอกจำนวน Pixel และ Grid





คลิกขวาที่ Volume >> Sort Ascending






- 0 คือไม่มีการเปลี่ยนแปลง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น